ผ้าห่มขนสัตว์จะทำความสะอาดยังไงดี

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคนเป็นยังไงกันบ้างค่ะ สบายดีกันไหมเอ๋ย  ส่วนเราสบายดีนะ เรามาเจอกันแบบนี้เราก็จะมีความรู้มาฝากเพื่อน ๆกันอย่างแน่นอน สำหรับความรู้ที่เราจะเอามาฝากเพื่อน ๆ กันวันนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เกียวกับผ้าห่ม  เราจะเอาวิธีของการดูแลผ้าห่มขนสัตว์มาฝากเพื่อน ๆกัน  สำหรับเพื่อนๆทีมีผ้าห่มขนสัตย์อยู่ละก็ มาทางนี้ได้เลย จ้า ๆ เพื่อนๆ พร้อมที่จะไปรับความรู้รึยังค่ะ ถ้าเพื่อน ๆพร้อมแล้วเราก็ไปเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า    วิธีการดูแลผ้าห่ม ที่เป็นผ้าห่มขนสัตว์ก็ไม่มีอะไรมากมายเลยให้เพื่อน ๆ ซักมือแทนการซักเครื่องนะ  ซักเองง่ายๆ ไม่ต้องสงไปซักร้านเลย เพื่อนๆ ก็จะได้ประหยัดแค่ซีดไปได้อีกทางหนึ่ง ถ้าเพื่อน ๆซักผ้า  ให้เพื่อน ๆ หาน้ำเย็นมาก แล้วเอาน้ำเย็นมาใช้ในการซักผ้าห่มขนสัตว์แทนการใช้น้ำธรรมดา   น้ำเย็น 1 ครั้งเราก็จะซักได้ 1 ผืนเท่านั้นนะ  ถ้าเรามีหลายผืนเราก็ต้องใช้น้ำเย็นค่อนข้างที่เยอะนิหนึ่งนะจ๊ะ  

                                                              

การซักแบบนี้  ใช้น้ำเย็นซักแบบนี้ มันก็เป็นการดีที่สุด แต่ถ้าเพื่อน ๆจะซักเครื่องก็ได้นะ แต่เราของแนะนำให้เป็นการซักมือก็จะดีกว่า  แต่ถ้าจะซักเครื่องเราก็มีวิธีการซักมาบอกเหมือนกัน  ถ้าเพื่อน ๆจะซักเครื่องละก็ให้ใช้เป็นความเร็วต่ำที่สุดนะ   เพราะว่าถ้าใช้เป็นความเร็วมาก มันอาจจะทำให้ขนหลุดหรือว่าขนหลุดออกได้   เมื่อซักเสร็จแล้ว เพื่อน ๆก็ทำให้มันแห้งโดยการใช้เครื่องอบแห้ง โดยเราเพื่อนๆ ก็เลือกเป็น ไม่ให้มันร้อนมาก ก็ได้  เอาเป็นความร้อนที่ต่ำสุด อ่ะค่ะ   เมื่อปั่นแห้งแล้วเพื่อนๆ ก็นำผ้าห่มของเพื่อน ๆออกไปตาก ... แต่! อย่าเอาไปตากกลางแจ้งละเพราะว่ามันจะยิ่งทำให้ผ้าห่มของเพื่อนๆนั้นเกิดการหดตัว นั้นเอง  ให้เพื่อน ๆนำไปตามตรงระเบียงหรือตรงที่แดด ไม่แรงซักเท่าไร่   ทางที่ดีก็ให้ตากไว้ในร่มแหละค่ะดีที่สุด

ก็จบกันไปแล้วนะสำหรับความรู้ที่เราได้เอามาฝากเพื่อนๆกันวันนี้ ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองเอาไปใช้ได้เหมือนกันนะ สำหรับครั้งหน้าเราจะเอาอะไรมาฝากเพื่อน ๆอีกละก็อย่าลืมติดตามอ่านกันด้วย เน้อ  สำหรับวันนี้ก็ต้องขอตัวไปก่อนนะสวัสดีค่ะ  >.<
มาจาก หนังสือเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง

เครดิต  showroomblogger

รู้เรื่องบ้าน...

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆที่น่ารักทุกคนของเราเลยแหละ  วันนี้เรามีความรู้มาฝากเพื่อน ๆ ด้วยนะแต้วันนี้เรามีความรู้เรื่องบ้านมาฝากแนะ  เพื่อไมให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

ก่อนอื่นเลยเรามารู้กันก่อนว่า ถ้าเราเป็นเจ้าบ้านถ้าเราอยากจะปลูกบ้านราจะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง  เราจะต้องมีงบประมาณ   และจะต้องศึกษาว่า ราคาของบ้านจะมีความสูงมากและน้อยแค่ไหน   จะต้องประมาณค่าได้ว่า บ้าน 1 หลังนั้นก็จะมีอุปกรณ์ต่างประมาณ นี้ก็คือ    อย่างแรกก็จะเป็น  ค่าอุปกรณ์ค่าวัสดุ  อย่างเช่น ปูน  หิน  ทราย  ไม้  วงกบ  ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นประมาณ  15-20 % ขอบ้านทั้งหลัง   และอย่างที่ 2 ก็คือ  ค่าแรงและค่าจ้างที่จะให้คนมาดำเนินสร้างให้  นอนนั้นก็ยังมี ค่าวัสดุที่ใช้ตกแต่ง   มีค่าประปา  ค่าวัสดุตกแต่ง สี และมีอื่น ๆ อีก ประมาณ  30%  และสิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านอีก  45%   เพื่อน อาจจะสังเกตได้ว่า ที่เราได้บอกมาทั้งหมดนั้น มันก็ไมได้เป็นส่วนใหญ่อะไรที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านของเพื่อน ๆ สูงมากขึ้น   เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆที่คิดจะลดขนาดของโครงสร้างเพื่อที่จะลดค่าใช้จ่าย มันก็สามารถช่วยได้แต่มันก็ช่วยไม่ได้มากเท่าไหร่   มินำซ้ำ มันจะทำให้มีการเกินอันตราย ในอนาคตอีกด้วยนะ เพราะถ้าเราสร้างบ้านขึ้นมาแล้ว  และยิ่งเป็นบ้านที่สร้างจากเงินของตัวเองแล้วเราก็ไม่อยากจะย้ายออกไปไหน เราก้อยากจะอยู่บ้านนั้นไปตลอด   สำหรับส่วนประกอบที่สำคัญของบ้านก็จะมี 

•         เสาเข็ม    ก็จะแบ่งเป็นเส้าเข็มแบบตอก  กับ เสาเข็มแบบเจาะดิน นะจ๊ะ
•         ต่อมาก็จะเป็น ระบบโครงสร้าง 
•         สำหรับข้อนี้ก็จะเป็น หลังคา มันสามารถแบ่งได้เป็น หลังคาแบน กับหลังคา เอียงนะค่ะ
•         และต่อมาก็จะเป็นผนัง  จะแบ่งเป็น ผนังไม้  ผนังอิฐมวลเบา  ผนังยิปซัม  และผนังก่ออิฐฉาบปูน
•         ต่อมาก็จะเป็น ฝ้าเพดาน  สำหรับตัวนี้ก็จะมี  ฝ้าเพดานนอก กับ เพดานใน
•         สำหรับข้อนี้ก็จะเป็นพื้น   สำหรับนี้ก็จะมีให้เลือกเป็น พื้นสำเร็จรูปกับพื้น คอนกรีต
•         สำหรับข้อสุดท้ายนี้  ก็จะเป็นประตู  ก็จะมีทั้ง บานเปิด  บานเลื่อน บาน เกล็ด และบานเฟิ้ยม

เป็นยังไงกันบ้างค่ะเพื่อน ๆสำหรับความรู้ที่เราได้เอามาฝากเพื่อน ๆในวันนี้   เพื่อนๆ ก็สามารถที่จะเอาไปใช้ได้นะจ๊ะ และสำหรับครั้งหน้าเราจะเอาความรู้อะไรมาฝากเพื่อน ๆอีกล่ะก็ อย่าลืมติดตาม กันด้วยละ  สำหรับวันนี้เราก็ขอตัวไปก่อนละกันนะ  ไปแหละ  สวัสดีค่ะ 

credit  showroomblogger

ทำไมต้องใช้หมอนพิงศีรษะ

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ คน  เป็นยังไงกันบ้างค่ะ สบายดีกันรึป่าว เราหวังว่าเพื่อน ๆทีน่ารักของเราจะสบายดีกันทั่วทุกคนนะค่ะ   ก็เหมือนอีกเช่นเคยนะค่ะ เรามาพกกันแบบนี้เราก็จะต้องมีความรู้และสาระดี ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันอย่างแน่นอน  สำหรับความรู้ที่เราจะเอามาฝากเพื่อน ๆในวันนี้ไม่ใช้เรื่องอาหาร ไม่ใช่การสร้างแต่ เป็นเรื่องของการใช้หมอนพิงศีรษะ ด้วย     เพื่อน ๆจะเห็นได้ชัด ว่ารถยนต์ในช่วงปัจจุบัน เนี่ยทำไมเค้ามีการ ติดตั้งตัวป้องกัน  และได้มีการเสริมและเพิ่มเติมสิ่งใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ  เข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง  ระบบเซ็นเซอร์ภายนอกรถบ้าง  ถุงลมนิรภัยบ้าง   แต่ที่ไมเคยเปลี่ยนไปเลยก็คือ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในยุคไหนก็เมื่อไหร่ ส่วนมากแล้วแทบจะทุกคนและค่ะที่จะต้องมีหมองพงศีรษะ   แต่ถึงมันจะมีมานานแล้วก็ตามแต่หลาย ๆคนก็ยังคงใช้ผิด ๆ วิธีและผิดวัตถุประสงค์อยู่เรื่อย   จะมีอุบัติเหตุอยู่  1 อย่างก็คือ การที่รถนั้นถูกจากด้านหลัง    และการชนแบบนี้มันจะส่งผลที่จะทำให้ตัวของคนขับนั้น พุ่งไปด้านหน้า  

                 

แต่ส่วนของร่างกายโดยเฉพาะตรงที่เป็นศีรษะมัน จะถูกผลักไปด้านหลังอย่างรุนแรง   การที่เป็นแบบนี้มันอาจจะทำให้มีการ บาดเจ็บ อย่างเช่น เอ็นยึด  กระดูกต้นคือเคลื่อน ๆ  การบาดเจ็บตรงบริเวณนี้มันอาจจะทำให้ เป็นอัมพาลได้เลยนะมันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆนะค่ะ เพื่อน ๆ    เพราะเหตุนี้แหละ เค้าถึงได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์ที่ป้องกันการบาดเจ็บ  ตรงสายนิรภัยจะมีการยึดตัวของคนนั่งเอาไว้ อ และก็จะเป็นหน้าที่ของตัวหมอนพิงศีรษะ ถึงแม้ว่ามันจะอยู่เฉยๆไม่ได้มีการผ่องออกมาเหมือนอุปกรณ์อย่างอื่น แต่ เมื่อรถนั้นมีการพุ่งไปข้างหน้า และศีรษะจะแกร่ง ไปด้วยหลังอย่างรุนแรง  เพราะฉะนั้น ก็จะต้องมีหมอนพิงศีรษะไว้ค่อย รองรับ   ศีรษะนั้นเอง   แต่ปัญหาก็คือ คนส่วนใหญ่ชอบเข้าใจผิดและใช้ผิดวัตถุประสงค์ เข้าใจแค่ว่า หมอนพิง เอาไว้หนุนเพื่อความสบาย ก็ทำการปรับหมอนมาไว้ตรงคอ นั้นแหละค่ะมันจะทำให้ ได้รับความบาดเจ็บมาก ๆ  เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น   เราคิดว่า อุปกรณ์อะไรที่เค้าติดตั้งมาในรถ ก็คงจะมีประโยชน์ทั้งหมดแหละคะ  ไม่ใช้แค่ติดตั้งมาเพื่อความสบายเท่านั้น ใช้งานอุปกรณ์ให้ตรงกับที่เค้ากำหนดมา   เป็นยังไงกันบ้างค่ะเพื่อน ๆสำหรับความรู้ที่เราได้นำมาฝากเพื่อน ๆกันในวันนี้เรา หวังว่าความรู้ที่เราได้เอามาฝากเพื่อน ๆนั้นมันคงจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ได้บ้างนะค่ะสำหรับฉบับหน้านั้นเราจะเอาอะไรมาฝากเพื่อน ๆอีกละก็ อย่าลืมติดตามอ่านกันด้วยละ สำหรับวันนี้เราก็ขอตัวลำไปก่อนไปล่ะ สวัสดีค่ะ บ้ายบาย ^^

เครดิต  showroomblogger

เครื่องตุ๋นยาจีน

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พบกับอุ้มกันอีกครั้งวันนี้อุ้มมีเรื่องเกี่ยวกับการทำกวยเจงตุ๋นยาจีนมาฝากเพื่อนๆ กันนะ สงสัยกันละซิว่ากวยเจงคืออะไร กวยเจงก็คือไก่ตุ๋นยาจีนนั้นเองค่ะ ซึ่งวันนี้อุ้มมีวิธีการกวยเจงตุ๋นยาจีนหรือไก่ตุ๋นยาจีนมาฝากทุกคนกันนะค่ะ

ก่อนอื่นเลยนะค่ะก็ต้องซื้อไก่เนื้อมานะค่ะเอาตัวที่ไม่มีมันแล้วก็ลอกหนังมาแล้วค่ะเพราะเวลาทำน้ำซุปไก่ตุ๋นจะได้ไม่มีมันนะค่ะ ส่วนเครื่องยาจีนที่เอามาทำไก่ตุ๋นยาจีนนั้นก็มีอยู่ 7 อย่างค่าอย่างแรกเลยนะค่ะ อั้งจ้อ หรือพุทธาแดงบ้านเรานั่นแหละค่ะมีประโยชน์ในการช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้นแถมยังช่วยแก้ท้องเสียได้ด้วย  อย่างที่สองคือเก๋ากี้ มีประโยชน์ในการช่วยบำรุงสายตาแก้อาการปวดก็ได้ และยังช่วยรักษาโรคเบาหวานได้อีก เก๋ากี้นะค่ะรสชาติจะออกหวานนิดขมหน่อยซึ่งนิยมชอบเอามาทำเป็นไก่ตุ๋นยาจีนหรือไม่ก็แกงจืดต่างๆ ค่ะ  ส่วนอย่างที่สามนะก็เป็นลำไยแห้งหรือภาษาจีนเรียกว่า โร่งหงาน ค่ะส่วนประโยชน์ของลำไยแห้งนะค่ะก็จะช่วนในเรื่องการบำรุงประสาท บำรุงหัวใจ แล้วก็บำรุงเลือดด้วยค่ะส่วนใครที่มีอาการนอนไม่หลับ กระวนกระวาย เครียด หรืออาหารไม่ย่อยลำไยแห้งก็ช่วยได้นะค่ะ  มาต่อกันที่อย่างที่สี่กันต่อเลยค่ะตังเซียม ซึ่งรสชาติจะออกหวานๆ หน่อย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยกินอาหารหรือไม่มีแรงตังเซียมช่วยได้ค่ะแถมยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้นอีกด้วย  อย่างที่ห้านะค่ะก็เป็นเอ่อออปักเข่ค่ะส่วนปักเข่นี้นะค่ะก็ไม่มีอะไรมากมีประโยชน์ในการช่วยบำรุงกำลังค่ะ  มาต่อกันอย่างที่หกก็เป็นแปะเจียกหรือภาษาจีนเรียกอีกอย่างว่า ว่ายซ่าน ซึ่งแปะเจียกนี้นะค่ะก็ออกจะมีรสชาติขมๆ หน่อยนะ เหมาะสำหรับคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือใครที่เป็นคนเหงื่อออกมาก แปะเจียกช่วยได้ค่ะ และสุดท้ายนะค่ะก็เป็นลำไยแห้งดำค่ะหรือภาษาจีนเรียกอีกอย่างว่า ฮักโร่งหงาน รู้อะไรไหมค่ะว่าลำไยแห้งสีดำดีและมีประโยชน์กว่าลำไยแห้งสีน้ำตาลอีกนะ  เอาละค่ะรู้เรื่องเครื่องยาจีนกันไปแล้วเราก็มาทำไก่ตุ๋นยาจีนกันต่อเลยดีกว่าแต่ก่อนที่จะทำก็ต้องเตรียมเครื่องที่จะใช้ในการตุ๋นไก่ให้พร้อมก่อนนะนั้นก็คือ เกลือ ซีอิ้ว น้ำมันงา พริกไทย เห็ด และก็รากผักชี ให้พร้อมก่อนนะพร้อมแล้วก็มาเริ่มตุ๋นไก่กันเลยเริ่มแรกก็ต้องต้มน้ำรอจนน้ำเดือดก็เอาเนื้อไก่ลงไปสักประมาณ 5 นาทีก็พอแล้วล่ะแล้วเทน้ำทิ้ง ใส่น้ำลงไปในหม้อแล้วรอจนน้ำเดือดแล้วใส่เนื้อไก่ลงไปอีกครั้งแล้วก็ใส่เครื่องยาจีนและใส่เครื่องปรุงลงไปแล้วก็ปิดฝาหม้อถ้าจะให้ดีก็ต้องต้ม 2-3 ชั่วโมงขึ้นไปนะค่ะ จบแล้วค่ะแล้วพบกันใหม่ สวัสดีค่ะ

แนะนำอื่นๆ Showroomblogger