หน้าเว็บ

วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

สินค้าอันตราย



สินค้าอันตราย
สินค้าอันตราย

                สินค้าประเภทวัตถุอันตราย หมายถึง วัตถุหรือสิ่งของที่โดยคุณสมบัติของมันเองก่อให้เกิดอันตราย ต่อสุขภาพของมนุษย์ ความปลอดภัย หรือทรัพย์สินได้ การขนส่งกระทำได้โดยจำกัด ปริมาณการบรรจุตามวิธีการบรรจุที่ระบุไว้ในระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการขนส่งสินค้าอันตราย ซึ่งการจัดประเภทของสินค้าอันตรายถูกกำหนดจากลักษณะของความอันตรายของสารนั้น การขนส่งวัตถุอันตรายในประเทศไทยได้จัดแบ่งกลุ่มโดยยึดหลักการการบังคับใช้กฏหมายนอกจากจะพิจารณาวิธีการขนส่งแล้วต้องพิจารณาชนิดและลักษณะสินค้า ซึ่งมีลักษณะ ดังนี้
วัตถุระเบิด วัตถุระเบิดมีสัญลักษณ์ตามที่แสดงและจำแนกออกเป็น 6 ประเภทย่อยดังนี้คือ
ประเภทย่อยที่1.1 สารที่ก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดอย่างรุนแรง เช่น ทีเอ็นที ไดนาไมท์และไนโตรไกลเซอรอน
ประเภทย่อยที่1.2 สารที่ก่อให้เกิดอันตรายโดยการกระจายของสะเก็ดเมื่อเกิดการระเบิด
ประเภทย่อยที่1.3 สารที่ก่อให้เกิดอันตรายจากเพลิงไหม้และตามด้วยการระเบิด
ประเภทย่อยที่1.4 สารที่ก่อระเบิดไม่มีการกระจายของสะเก็ด ผลของการระเบิดจำกัดเฉพาะในหีบห่อ
ประเภทย่อยที่1.5 สารที่ไม่ไวต่อการระเบิด แต่เมื่อเกิดการระเบิดจะเกิดอันตรายอย่างรุนแรง
ประเภทย่อยที่1.6 สารที่เฉื่อยต่อการระเบิด ซึ่งผลจากการระเบิดไม่รุนแรง
ก๊าซอัด จำแนกออกเป็น 3 ชนิด คือ ก๊าซไวไฟ ก๊าซไม่ไวไฟ และก๊าซพิษ เป็นสารที่มีอุณหภูมิ 50 องศา มีความดันไอมากกว่า 300 Kpa หรือ มีสภาพเป็นก๊าซโดยสมบูรณ์ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส ก๊าซที่ทำการขนส่งนั้นอยู่ในลักษณะต่างๆ คืออัดก๊าซในสภาพของเหลว ก๊าซที่เป็นของเหลวภายใต้การควบคุมอุณหภูมิต่ำ ก๊าซในสารละลาย มีสัญลักษณ์ และแบ่งตามอันตรายปฐมภูมิของก๊าซ ออกเป็น 3 ประเภทย่อย ดังนี้
                ประเภทย่อย 2.1 ก๊าซไวไฟ หมายถึง ก๊าซที่ความดันปกติ 101.3 และอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส เมื่อผสมกับอากาศสามารถจุดประกายที่ความเข้มข้น 13 % หรือต่ำกว่าโดยปริมาตร
                ประเภทย่อย 2.2 ก๊าซไม่ไวไฟและวัตถุเป็นพิษ หมายถึงก๊าซที่ทำการขนส่งที่ความดัน ไม่น้อยกว่า 280 Kpa ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส หรือในสภาพเป็นของเหลวที่อุณหภูมิต่ำและสามารถทำ ให้หายใจไม่สะดวก เนื่องจากก๊าซเหล่านี้จะทำให้ออกซิเจนเจือจางลง หรือแทนที่ออกซิเจนที่อยู่ในอากาศ เป็นออกซิไดซ์ เมื่อสัมผัส กับออกซิเจนทำ ให้เกิด หรือช่วยให้เกิด การเผาไหม้วัสดุอื่นได้ดี
                ประเภทย่อย 2.3 เป็นก๊าซที่มีคุณสมบัติเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าเป็นพิษหรือกัดกร่อน
ขอบคุณแหล่งที่มา จำหน่ายเครื่องบรรจุภัณฑ์

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

ขจัดกลิ่นให้หมดไปจากที่นอนกันเถอะ



            เพื่อนๆลองนึกดูเล่นๆนะค่ะว่า วันวันหนึ่งเราใช้เวลาอยู่บนที่นอนกี่ชั่วโมง เราว่าอย่างน้อยก็ 5 -10 ชั่วโมงแหละเนอะ ดังนั้นเราควรใส่ใจกับการทำความสะอาดและอนามัยบนที่นอนมากๆนะค่ะ ยิ่งถ้าที่นอนของเราห่างไกลจากการทำความสะอาดมานาน และเกิดกลิ่นเหม็น เพื่อนๆยังจะอยากนอน หรือนั่งเล่นบนที่นอนกันอยู่ไหมค่ะ ดังนั้น เรามาเรียนรู้วิธีการทำความให้ที่นอนสะอาดเหมือนใหม่อยู่เสมอและยังเป็นการลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกไปจากที่นอนเราด้วยค่ะ
ขจัดกลิ่นให้หมดไปจากที่นอนกันเถอะ

            นำที่นอนไปตากแดด สัมผัสลมธรรมชาติบ้างนะค่ะ เพราะแดดสามารถฆ่าเชื่อโรคได้ดีเยี่ยมแต่ไม่ต้องไปนั่งเฝ้าแล้วถือว่าอาบแดดนะค่ะเพราะแสงแดดถึงจะดีต่อที่นอน แต่ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายเราเท่าไหร่นักค่ะ และลมธรรมชาติยังมีส่วนช่วยในการลดกลิ่นอับของที่นอนได้ดีอีกด้วยนะค่ะ
            เวลาตื่นนอนแล้วอย่าเพิ่งเก็บที่นอนสะบัดแล้วคลุมเตียงนะค่ะ เพราะเราจะบอกว่า ปล่อยไว้ให้มันรกหูรกตาซัก 30 นาทีก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แถมยังเกิดผลดีอีกด้วยนะค่ะ เพราะถ้าเราเก็บที่นอนแล้วคลุมที่นอนเลยนั้น จะทำให้เกิดกลิ่นอับได้ แต่การปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น เป็นการปล่อยให้ที่นอนได้ระบายอากาศเพื่อลดกลิ่นเหงื่อ ระบายกลิ่นต่างๆออกไป หลังจากครบ 30 นาทีจะเริ่มทำการเก็บที่นอนก็ไม่เสียหายนะค่ะ
            เพื่อนๆหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับกลิ่นอับบนที่นอน จนคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้วใช่มั้ยค่ะ แต่ถ้าใครอยากจะหยุดกลิ่นเหม็นอับบนที่นอน เราก็มีวิธีการทำง่ายๆมาบอกค่ะ แค่เพียงเพื่อนๆถอดเครื่องนอนออกจากเตียงให้หมด  แล้วทำการโรยผงเบกกิ้งโซดาให้ทั่ว และถ้าอยากให้ที่นอนมีกลิ่นหอม ก็สามารถทำได้โดยการหยดน้ำมันหอมละเหยกลิ่นที่ชอบ หรือถ้าใครตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอากลิ่นไหน เราขอแนะนำเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์หรือกลิ่นดอกไม้อ่อนเพื่อช่วยในการผ่อนคลายก็ได้นะค่ะ ลองหากลิ่นที่ถูกใจมาใช้กันเนอะ แล้วปล่อยทิ้งไว้ซัก 5 นาที ให้ตัวเบกกิ้งโซดาทำการดูดกลิ่นเหม็นๆออกให้หมด แล้วเอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดผงเบกกิ้งโซดาออกให้หมด แต่นี้ก็ได้ที่นอนหอมๆ แล้วค่ะ

เครดิต หนังสือเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง 


วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557

การเลือกซื้อโคมไฟ

การเลือกซื้อโคมไฟ
โคมไฟ
การเลือกซื้อโคมไฟ

การที่เราจะตกแต่งบ้านนั้น เราก็จะหาเฟอร์นิเจอร์เข้ามาประดับบ้าน เฟอร์นิเจอร์ก็มีมากมายหลายแบบ เช่น โต๊ะอาหาร ตู้โชว์ ชั้นวางของ อื่นๆ มากมาย และเฟอร์นิเจอร์อีกอย่างเลยที่ขาดไม่ ทุกๆ บ้านจะต้องมี ก็คือ โคมไฟ นั้นเอง เนื่องจากโคมไฟมีความสวยงามมีเสน่ห็ที่น่าหลงใหลในตัวของมันเอง โคมไฟยังสามารถบรรยากาศให้กับบ้านของเราด้วย ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น ในขณะเดียวกันโคมไฟก็ให้ความรู้สึกแบบโรแมนติก ในคราวเดียวกันด้วย ดังนั้นวันนี้เราขอแนะนำการเลือกซื้อโคมไฟ เพื่อให้คุณได้เลือกซื้อโคมไฟได้ตรงตามความต้องการของคุณ
1. โคมไฟแบบติดเพดาน เป็นดวงโคมไฟที่ติดเหนือศีรษะ บริเวณฝ้าเพดานด้านบน หรือห้อยลงมาจากเพดาน เช่น โคมไฟห้อยเพดานหรือไฟช่อระย้า มีทั้งแบบโคมไฟธรรมดาที่ราคาไม่แพงไม่กี่พันบาทไปจนถึงโคมไฟแชนเดอเลียร์ ที่ประกอบไปด้วยหลอดไฟเล็ก ๆ มากมาย สวยงาม ให้แสงสว่างและความร้อนมาก กินไฟมาก ราคาแพงมาก ส่วนใหญ่จะติดอยู่ในคฤหาสถ์เห็นได้ในหนังฝรั่งย้อนยุคทั่วไป โคมไฟแบบติดเพดานนี้จะมะความหรูหราในตัว จึงทำให้บ้านคุณดูหรูมีระดับขึ้นมาอีก
2. โคมไฟติดผนัง เป็นชนิดที่ต้องใช้ยึดติดกับผนัง มีทั้งแบบให้แสงส่องออกมาตรง ๆ หรือแบบสะท้อนเข้าผนังเพื่อสร้างบรรยากาศให้กับห้องหรือจัดโชว์ผลงานต่างๆ เช่นรูป ที่ติดตามผนัง แต่ส่วนใหญ่นิยมใช้ตกแต่งในโรงแรมมากกว่า ไม่เน้นที่ความสว่างแต่จะใช้ในการสร้างบรรยากาศให้ดูดึงดูดและน่าสนใจมากกว่า จะให้ความรู้สึกคล้อยตามบรรยากาศตามสถานที่นั้นๆ ได้ดี
3. โคมไฟแบบตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะ เป็นดวงโคมไฟแบบลอยตัวที่ช่วยในการให้แสงสว่างตามจุด ตามมุมห้อง เช่น ในบริเวณที่นั่งอ่านหนังสือหรือโต๊ะอ่านหนังสือ โต๊ะทำงาน หรือโต๊ะหัวเตียง ห้องนั่งเล่น ตามร้านอาหารต่างๆเพื่อสร้างบรรยากาศให้กับร้าน เป็นต้น ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหมื่นขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้และการดีไซน์

การเลือกซื้อโคมไฟนั้น นอกจากคำนึงถึงความสวยงามเป็นหลักแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเรื่องการประโยชน์ใช้สอยด้วย และยังรวมไปถึงเรื่องของการประหยัดไฟ คุณภาพมาตรฐานต่างๆ ของโคมไฟด้วย เราเองก็ขอให้มีความสุขกับการเลือกซื้อโคมไฟที่ถูกใจนะครับ
เครดิต หนังสืออุปกรณ์ไฟฟ้า

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557

งานศิลปะบนผนังบ้าน

งานศิลปะบนผนังบ้าน
            สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พบกันอีกแล้วนะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะสบายดีกันใช่ไหมเอ่ย...เหมือนเดิมเช่นเคยค่ะพบกันแบบนี้ต้องมีเรื่องราวบทความดีๆมาฝากกันแน่นอน วันนี้เรามีบทความสาระดีๆเกี่ยวกับการตกแต่งผนังบ้านมาฝากกันค่ะ สำหรับเพื่อนๆที่กำลังคิดที่จะสร้างบ้าน หรือออกแบบบ้านแล้วยังไม่มีแบบหรือยังคิดไม่ออก สามารถนำไอเดียร์วันนี้ไปออกแบบผสมผสานกับการสร้างบ้านของคุณได้ค่ะ
            เพื่อนๆทราบไหมค่ะว่า เสื้อผ้าสามารถกลายเป็นงานศิลปะเมื่อนำมาแขวนด้วยความเอาใจใส่บนผนังบ้าน นี่คือคอลเล็กชั่นของชุดราตรีและกระโปรงซึ่งทำขึ้นโดยนักออกแบบแฟชั่นผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เรียงพวกมันลงบนผนังเดียวกัน หากคุณทำการดิสเพลย์เสื้อผ้าด้วยวิธีนี้ ต้องนำพวกมันลงมาปัดและเขย่าเพื่อกำจัดฝุ่นและการป้องกันรอยยับ
งานศิลปะบนผนังบ้าน

            ศิลปะบนผนังของคุณไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ทางเดินนี้เรียงด้วยปกนิตยาสารเก่าและภาพถ่ายแฟชั่นซึ่งนำมาเข้ากรอบแบบเรียบๆ ในห้องที่ติดกับผ้าปักลายนก ดอกไม้และทิวทัศน์แบบตะวันออกถูกแขวนเป็นกลุ่มเพื่อทำให้เกิดการตัดกันของสีสันที่สดใส
            ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ต้องทำตามเมื่อต้องการจัดเรียงรูปภาพและกระจกเงา แต่หากคุณพบว่าคุณมีรูปภาพจำนวนมาก มีพื้นที่ว่างบนผนังอย่างล้นเหลือ และไม่รู้ว่าควรจะจัดการมันอย่างไร ลองใช้แรงบันดาลใจจากตลาดนัดของอิหร่าน ตุรกี และโมร็อกโค ตามธรรมเนียมแล้วตลาดใหญ่ ๆ อย่าง เตหะวาน แกรนด์ บาร์ซาร์ และตลาดในร่มที่อิสตันบลูจะถูกแบ่งเป็นแถวยาว แต่ละแถวจะแบ่งตามสิ่งของแต่ละประเภทตั้งแต่เครื่องเทศและพรม ไปจนถึงน้ำหอมและเครื่องโลหะมีค่าต่างๆ ลองใช้หลักนี้ในการจัดการกลุ่มรูปภาพของคุณ แขวนสิ่งที่มีประเภทคล้ายคลึงไว้ด้วยกัน เช่น รูปบุคคล รูปวิวทิวทัศน์ ม้า ดอกไม้ หรือตามประเภทภาพเขียน เช่น สีน้ำมัน ภาพสเก็ตส์ด้วยถ่านสีดำ สีน้ำ หรือจัดกลุ่มด้วยสีสันของกรอบ ขนาดของภาพ ผนังที่ติดด้วยภาพเขียนบนผ้าแคนวาดวาสขนาดใหญ่ดูโดดเด่นมาก เช่นเดียวกับแบบที่เรียงกลุ่มของภาพถ่ายเล็กๆ ที่ใส่อยู่ในกรอบเนี้ยบสีดำ       
            เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย...สำหรับบทความดีๆในวันนี้หวังว่าคงจะถูกใจเพื่อนๆนะคะ และสำหรับเพื่อนๆที่กำลังคิดที่จะสร้างบ้านนั้น ครั้งหน้าเรามีบทความเกี่ยวกับ บริษัทรับสร้างบ้านมาฝากกันค่ะ อย่าลืมติดตามกันน๊า